บรรยากาศในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เซียงชานกงหยวน
ใกล้เข้ามาแล้วกับฤดูในไม้ร่วงในประเทศเมืองหนาวแล้ว ที่ปักกิ่งก็เช่นกัน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของปักกิ่งเป็นช่วงที่ให้ความรู้สึกมีสีสัน แต่เมื่อถึงช่วงใบไม้ร่วงแล้วจะรู้สึกโดดเดี่ยวยังไงก็ไม่รู้ นี่เป็นความรู้สึกของจขบ. นะคะ
จริง ๆ แล้วเราชาวเมืองร้อนนนั้น มักจะชอบอกชอบใจกับการได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี เพราะบ้านเราไม่มีฤดูนี้นั่นเอง ในไม้เริ่มเปลี่ยนสีเมื่อเริ่มมีลมเย็น ๆ เข้ามาค่ะ หลังจากนั้นช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูก็จะมีฝนตกบ้างสลับกัน ไม่นานหลังจากนั้น ใบไม้ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนสีเพิ่มมากขึ้น จากมุมนึงกลายเป็นส่วนนึงและในที่สุดก็กลายเป็นต้นไม้ที่มีใบสีเหลือหรือสีแดง จากนั้นก้ร่วงหล่อนไปค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือภูเขาค่ะ เพราะการได้ขึ้นไปชมวิวจากที่สูงนั้นทำให้เราสามารถเห็นกลุ่มต้นไม้สีต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นก็จะเปลี่ยนสีไม่พร้อมกันทุกต้นหรอกนะคะ
ที่ปักกิ่งนั้น สถานที่ที่เป็นที่นิยมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือ เซียงชานกงหยวนหรือสวนเซียงชาน (xiang shan gong yuan) ค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่ที่คึกคักในฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนจะเริ่มหลั่งไหลไปที่นี่ตั้งแต่เริ่มวันชาติของจีนในเดือนกันยายนค่ะ แต่ในวันชาตินั้นใบไม้ก็ยังเปลี่ยนสีไม่หมดทุกต้น ช่วงประมาณกลางถึงปลายเดือนตุลาคมคือช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีแทบจะทั้งภูเขาแล้วค่ะ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในความรู้สึกของจขบ. บางครั้งก็เปลี่ยนไม่เร็วมากนะคะ แต่มักอยู่ไม่นาน พอฝนตกครั้งนึง บางทีใบไม้ที่เปลี่ยนสีก็ร่วงหมดแล้ว เช่นวันนี้ยังเห็นต้นนี้เป็นสีแดด ตกกลางคืนฝนตก เช้ามาต้นไม้นั้นกลายเป็นไม่มีใบเพราะร่วงหมดเสียแล้วค่ะ
แต่จริง ๆ แล้วสภาพอากาศในแต่ละปีก็ส่งผลถึงช่วงการเปลี่ยนสีของใบไม้นะคะ ยิ่งหนาวเร็วเท่าไหร่ใบไม้ยิ่งเปลี่ยนสีไวเท่านั้น และจะเริ่มจากด้านบนภูเขาก่อน เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเย็นก่อนที่อื่น ๆ
แผนที่ของสวนเซียงชาน
นอกจากคนที่มาดูใบไม้เปลี่ยนสีบนยอดเขาที่สามารถมองเห็นปักกิ่งที่กว้างใหญ่ได้นั้น ตามแต่ละชั้นของทางขึ้นเขาก็จะมีตำหนักต่าง ๆ ที่เป็นที่ประดับของเหล่าเจ้านายในยุคก่อนที่ต่างก็เดินทางขึ้นมาพักที่ภูเขาแห่งนี้ค่ะ
ด้านล่างสุดของภูเขาเป็นสวนสาธารณะ และวัดค่ะ สวนสาธารณะที่ปักกิ่งทุกสวนต้องเสียค่าเข้าค่ะ อาจจะเป็นห้าหยวนสิบหยวนแล้วแต่สถานที่
บัตรเข้าชมสวน
ในปีแรกที่จขบ. อยู่ที่ปักกิ่งนั้นได้ไปเซียงชานกงหยวนด้วยกันสองครั้ง ครั้งแรกไปในช่วงวันชาติ คนเข้าเยี่ยมชมสวนเยอะมาก และต้นไม้ก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีเท่าไรนัก ส่วนครั้งที่สองทางมหาวิทยาลัยจัดพามาในช่วงปลายเดือนตุลาคม ตอนนั้นใบไม้เปลี่ยนสีไปมากแล้วค่ะ
วันนั้นที่ไปกับมหาวิทยาลัย อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะเลยมองไม่เห็นวิวด้านล่าง
ทางขึ้นในบางช่วงค่ะ
การเดินทางไปยังยอดเขาเซียงชานมีสองวิธีค่ะ คือการเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณสามชั่วโมงจึงถึงยอดเขาค่ะ มีความชันบ้างในบางพื้นที่ แต่ก็มีที่พักเรื่อย ๆ ตามตำหนักต่างๆเช่นกัน การเดินขึ้นไปถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี และเราจะเห็นคุณลุงคุณป้าชาวจีนเดินขึ้นกันอย่างไม่ย่อท้อเลยค่ะ สาวจีนบางคนก็ขึ้นภูเขาด้วยรองเท้าส้นสูง ทักษะนี้ไม่ควรเลียนแบบเลยนะคะสำหรับมือใหม่หัดเดินขึ้นเขาเช่นเรา ๆ เพราะเอาเข้าจริงมันเหนื่อยมาก ๆ แม้อากาศจะเย็นบ้างแล้ว แต่การเดินขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้คุณลุงชาวจีนร้อนขนาดเดินถอดเสื้อขึ้นเขากันเลยทีเดียว
อีกวิธีนึงคือการนั่งกระเช้าขึ้นเขาค่ะ เราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งแค่ขาขึ้นหรือขาลง หรือเลือกนั่งทั้งสองขาก็ได้ค่ะ การนั่งกระเช้าขึ้นลงนั้นไม่เมื่อยขาค่ะ แถมยังได้มองวิวตลอดทางอีกด้วย เป็นวิธีที่แนะนำสำหรับคนไม่กลัวความสูงนะคะ ถ้ากลัวความสูงก็เดินเถอะค่ะ ขนาดจขบ. ไม่กลัวความสูง ยังนั่งแล้วเกร็งเลยค่ะ
ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ถ้าใครไปปักกิ่ง หรือกำลังเรียนอยู่ที่ปักกิ่ง เซียงชานกงหยวน เป็นแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติแล้ว ยังได้สัมผัสผู้คนและวัมนธรรมของชาวปักกิ่งอีกด้วย ส่วนใครที่ไปที่นี่แล้วมีความรู้สึกอย่างไร มาเล่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้จขบ.ฟังบ้างนะคะ
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon