ประสบการณ์คนไทยในปักกิ่ง (17) – หอใน VS หอนอก (4)

หอใน 1
หอใน 2
หอนอก
บทสรุป


บรรยากาศข้างหอในฤดูใบไม้ร่วงและหิมะแรกของปี 2015

สำหรับจขบ. แล้วนั้น  จขบ. ชอบหอนอกมากที่สุดค่ะ  แม้จะเหงาบ้าง  เคว้งบ้างในช่วงแรก  แต่พอเราได้อยู่เงียบๆกับตัวเอง   ก็ทำให้เรามีเวลาคิดอะไรต่างๆมากขึ้น  ได้ช่วยเหลือตัวเอง  ได้ใช้ภาษาจีนอย่างเต็มที่  ได้พยายามติดต่อสื่อสารกับคนขีนด้วย  มีบางครั้งบางอย่างที่ไม่ชอบเช่นกัน  แต่มันเป็นปัจจัยถายนอกที่ จขบ. เองก็ไม่สามารถควบคุมได้  ในส่วนปัจจัยที่ควบคุมได้คือตัวเองนั้น  หอนอกทำให้จขบ. ควบคุมตัวเองได้มากขึ้น  อีกทั้ง  พ่อแม่ของจขบ. มาเยี่ยมจขบ.  ก็สามารถนอนที่หอนอกได้โดยไม่มีปัญหาอะไร  แต่ในขณะหอในนั้น  ไม่สามารถให้คนนอกนอนค้างคืนได้  และยังกำหนดเวลาเข้าออกของคนนอกด้วย  ซึ่งบางทีเราก็มีธุระจำเป็นมากๆ  แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปได้

จขบ. กับประสบการณ์อยู่หอ

จากประสบการณ์ที่ได้ไปต่างประเทศและอยู่หอเป็นครั้งแรกในชีวิต  ประสบการณ์ที่ได้มาจากการอยู่หอมีมากมายจนนับไม่ถ้วน  เพราะทำให้นิสัยของตนเองเปลี่ยนไปมากในหลายๆอย่าง  ช่นความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง  การทำความสะอาดห้อง  และอื่นๆ  สิ่งที่สำคัญที่สุดของการอยู่หอ  ไม่ว่าจะหอในหรือหอนอกก็คือ  วามเกรงใจต่อส่วนรวม  หากไม่มีความเกรงใจซึ่งกันและกันแล้วก็จะไม่มีความสงบสุขเลย  นอกจากนี้รูมเมทหรือแฟตท์เมทก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การอยู่หอเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือแย่  เพราะหากได้รูมเมทดี  เราก็อยากอยู่ห้อง  รู้สึกห้องเป็นที่ของเราเป็นบ้านของเรา  แต่หากได้รูมเมทแย่  ก็จะมีความรู้สึกไม่อยากอยู่ห้องเลย  รู้สึกว่าห้องนี้ไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจที่จอยู่
การอยู่ห้องเดี่ยวคงเป็นความฝันที่หลายๆคนเทื่อไปเรียนต่างประเทศก็ตั้งใจจะอยู่คนเดียว  ห้องเดี่ยว  แต่ในความจริงแล้ว  ในแต่ละสถานที่แต่ละประเทศก็มีปัจจัยไม่เหมือนกัน  อย่างเช่นที่เมืองจีน  การเช้าห้องเดี่ยวหรือห้องส๖ดิโอนั้นมีราคาแพงมาก  อย่างต่ำก็ราคาเดือนละ 25000 บาทไทยต่อเดือนยังไม่รวมน้ำไฟ  หากมองในด้านความสบายใจและสะดวกที่จ่ายได้  ห้องเดี่ยวเป็นทางเลือกที่ทุกคนอยากเลือก

สมาคมเด็กไทย วันว่างเราก็มาช่วยกันทำกับข้าวและร่วมวงกินข้าวกัน

แต่ปัจจัยทางด้านการเงินหรือด้านอื่นๆทำให้เราต้องอยู่ห้องชุดหรือมีรูมเมท  หากเราทำตัวให้สนุกกับการอยู่ของเรา  เราก็จะมีความสุข  และอาจได้พบกว่า  การอยู่ร่วมกับผู้อื่นทำให้เราฝึกฝนตนเองในด้านต่างๆมากมาย  ทั้งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  การเข้าสังคมและอยู่ร่วมกับผู้อื่น  ความอดทน  การแบ่งหน้าที่  เกรงใจผู้อื่น  เป็นต้น  การมีรูมเมทจึงไม่ใช่ข้อกังวลที่น่ากลัวเกินไปนัก  นอกจากนี้คนแต่ละคนก็มียุคลิกลักษณะนิสัยต่างกัน  เราไม่สามารถเอามาวัดเทียบกันได้กับภาพร่วม  เช่น  ประเทศนี้เห็นแก่ตัว  ประเทศนี้ชอบนอนตื่นสาย  จริงๆแล้วทุกๆประเทศก็มีคนทุกรูปแบบ  มันขึ้นอยู่กับดวงเราล้วนๆว่าจะได้ไปเจอกับรูมเมทหรือแฟลตเมทที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้  เปิดใจให้กว้าง  การมีรูมเมทไม่ได้น่ากลัว  แต่ถ้ารูมเมทเราแย่จริงๆ  ก็หาทางย้ายห้องเถอะ  เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของเราเอง


จบตอน หอใน VS หอนอก

Previous
Next Post »