ถนนคนเดินเฉียนเหมิน
วันนี้จะมากี่ยวกับเมื่อมาอยู่เมืองจีนได้อาทิตย์แรก ในอาทิตย์แรกนั้นมีพ่อและแม่ตามมาส่งด้วยที่เมืองจีน ความเป็นอยู่โดยทั่ว ๆ ไปถือว่าขรุขระพควร เนื่องจากพ่อแม่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ และจขบ.ก็พูดจีนได้ไม่ดีนัก ( แต่การฟังถึงขั้นว่าแย่ เพราะชาวจีนทางตอนเหนือจะมีเอกลักษณ์เด่นคือ เอ๋อร์ฮว่า คือการพูดแล้วลงท้ายประโยคด้วยการม้วนลิ้น สำหรับความเคยชินของชาวไทยนั้น ถือว่าเอ๋อร์ฮว่าเป็นสิ่งที่ต้องฝึกกันอยู่พอสมควร กว่าจะพูดเอ๋อร์ฮว่าได้ฟังออก )
จขบ. เริ่มต้นการไปจีนด้วยการจองโรงแรมให้พ่อแม่ผิดแห่ง เป็นชื่อโรงแรมเดียวกัน แต่คนละสาขา พอจองผิดปั๊บแผนการเดินทางต่าง ๆ ก็รวนไปหมด เพราะตั้งใจจะไปพักที่ถนนคนเดินเฉียนเหมิน แต่ไปจองแถวเขตวงแหวนที่สี่ การวางผังเมืองของงปักกิ่งนั้นมีเมืองต้องห้ามหรือกู้กงเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วไล่ออกไปเป็นวงแหวนเรื่อย ๆ โดยนับที่กู้กงเป็นวงแหวนที่หนึ่ง ในตอนนั้นแม่ก็ช่วยชีวิตด้วยภาษามือสุดชีวิต ตอนที่พ่อแม่ของจขบ.มาอยู่ที่เมืองจีน เป็นช่วงเวลาที่จขบ.ได้เที่ยวเยอะมาก เที่ยวไปเกือบครึ่งเมืองของปักกิ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่พ่อแม่ไปแต่จขบ.ไม่ได้ไปเนื่องจากติดภารกิจลงเรียน เดี๋ยวเรื่องสถานที่เที่ยวเราจะว่ากันในตอนถัด ๆ ไป
การลงทะเบียนเรียนของที่นี่ ค่อนข้างมีความสับสนวุ่นวายมากสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มาครั้งแรก แต่ก็ยังดีที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเตรียมอาสาสมัครสำหรับนักเรียนต่างประเทศที่เพิ่งมา โดยมีทั้งอาสาล่ามภาษาอังกฤษ ล่ามภาษาญี่ปุ่น ล่ามภาษารัสเซียและภาษาอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อต่อแถวลงทะเบียนเรียนแล้ว เราจะถูกทดสอบความสามารถทางภาษาจีนเพื่อจัดชั้นเรียน มีการส่งใบตรวจสุขภาพ ที่ควรจะตรวจตั้งแต่อยู่เมืองไทย ควรทำเอกสารให้เรียบร้อยและเอกสารทุกใบในใบตรวจสุขภาพห้ามเป็นชุดถ่ายเอกสาร ต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น
กว่าจะส่งเอกสารเสร็จก็จะถึงเวลาช่วงบ่ายแล้ว จริง ๆ แล้วนั้นระบบราชการจีนเป็นระบบที่เรียกว่า ช้าชนะไทย ช้าทุกอย่างเลย หรืออาจจะเพราะปริมาณประชากรขอเค้าเยอะด้วยก็ไม่แน่ใจ ขนาดไปเปิดบัญชี ( ที่มีพี่ป.โทคนไทยมาช่วยคุยกับพนักงาน ) ยังกินเวลากว่าจะทำเสร็จก็หมดเวลาไปครึ่งวันพอดี นอกจากนี้ยังต้องมีการเอาพาสปอร์ตไปเปลี่ยนวีซ่าด้วย อันนี้กินเวลาไปอีกครึ่งวันของอีกวัน รวม ๆ แล้วการลงทะเบียนเรียนครั้งแรกใช้เวลาไปทั้งสิ้นสองวันถ้วน
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon